Amazon Deals

Thursday, July 30, 2009

Biological Background คร่าว ๆ เกี่ยวกับการทำงานของ DNA



ในสิ่งมีชีวิตมีเซลล์เป็นส่วนประกอบ
ในเซลล์มีโครโมโซม
ในโครโมโซมประกอบด้วยลำดับนิวคลีโอไทด์(nucleotide)เกลียวคู่(double-helix)พันกันอยู่
ซึ่งนิวคลีโอไทด์มีสารที่เป็นเบสประกอบด้วยบางทีเราอาจจะเรียกนิวคลีโอไทด์ว่าเบสก็ได้



นิวคลีโอไทด์สามารถเป็นได้ 4 อย่างดังต่อไปนี้
Adenine เขียนย่อว่า A
Cytocine เขียนย่อว่า C
Guanine เขียนย่อว่า G
Thymine เขียนย่อว่า T




ในขั้นตอนการถอดรหัส(Transcription)สายดีเอ็นเอ(DNA)จะคลายเกลียวออกเพื่อจะถอดรหัส
เมื่อถอดรหัสแล้วจะได้สิ่งที่เก็บรหัสไว้ซึ่งเรียกว่า pre-mRNA
ในพวกยูคาริโอต(Eukaryote) pre-mRNA จะมีทั้งส่วนที่จะใช้งานและไม่ใช้งาน ส่วนที่จะไม่ใช้งานเดี๋ยวจะมีการตัดทิ้ง
ส่วนที่จะใช้งานหมายถึงส่วนที่จะสามารถนำไปแปลรหัส(Translation)ต่อนั้นจะเรียกว่า exon
ส่วนที่ไม่ใช้ต่อเรียกว่า intron จะถูกตัดทิ้งในขั้นตอนที่เรียกว่า splicing
พอตัดส่วน intron ใน pre-mRNA แล้วจะเหลือส่วน exon
exon ทั้งหมดมาต่อกัน ก็จะได้ mRNA จริง ๆ บางทีก็เรียก mature-mRNA เค้าอ่านว่าแมทชัวเอ็มอาร์เอ็นเอ หรือว่า มาเจอร์เอ็มอาร์เอ็นเอไม่แน่ใจ เราคิดว่า แมทชัว ฟังดูดีกว่า อ่านแบบแอ๊กเซ่นหน่อย ๆ

ได้ mRNA จริง ๆ แล้ว
เวลาจะ translation จะไม่ได้ใช้ทุกส่วนที่เป็น mRNA นะ ใช้แค่ส่วนที่จะใช้ซึ่งเรียกว่า CDS(Coding Sequence)
เฉพาะ CDS นั่นแหละ จะทรานสเลทไปเป็นกรดอะมิโน(amino acid)
ตอนแปลรหัสจะมีไรโบโซม(ribosome)คอยอ่าน mRNA ส่วนที่เป็น CDS โดยการอ่านจะอ่านทีละ 3 เบส
3 เบส = 1 โคดอน(codon) แหม๊ ศัพท์เทคกะนิคเยอะจริง
1 โคดอน แปลรหัสได้ 1 กรดอะมิโน
หลาย ๆ กรดอะมิโนต่อกัน = โปรตีน(Protein)

โปรตีนก็คือเรา เราก็คือก้อนโปรตีน โปรตีนในตัวเรา เช่น เนื้อหนังมังสา ขน ผม เล็บ น้ำย่อย เอนไซม์ ฮอร์โมน สารสื่อประสาท ต่าง ๆ นานา แต่ละอย่างทำหน้าที่ของมันเองอย่างสมดุล ทำให้เราเป็นเราอย่างทุกวันนี้

ถ้าเราเป็นผีบ้า อาจเกิดจากฮอร์โมนบางอย่างทำงานผิดปกติไปเช่นร่างกายอาจสร้างมามากไปหรือน้อยไป ก็ทำให้เราผิดปกติได้

ด้วยประการละฉะนี้
**รูปภาพต่าง ๆ ในหน้านี้เอามาจากในเน็ตทั้งนั้น ขอบคุณเจ้าของรูป(ซึ่งเป็นใครไม่รู้บ้าง)ที่เอื้อเฟื้อ

Wednesday, July 29, 2009

จดโดเมนเนม (Register Domain Name)

เมื่อคืนนอนไม่หลับ ก็เลยเอาคอมมาเล่นอีก ช่วงนี้สนใจอ่านเรื่อง google adsense จริง ๆ ก็ได้ยินมานานแล้ว แต่เห็นว่ามันต้องมีเวบไซต์ของตัวเองก่อน ถึงจะเอาโฆษณาของกูเกิ้ลแอสเซนไปติดได้ ก็อีกนั่นแหละ ไม่รู้ว่าจะทำเว็บอะไร ตอนนี้เรียน Bioinformatics อยู่ก็คิดว่า เอ้า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ ลองทำเวบที่เกี่ยวกับกับไบโออินฟอเมติกส์ดูก็ละกัน จะได้เผยแพร่คนอื่นและน่าจะเป็นประโยชน์กับตัวเองด้วย คือว่าต้องไปขวนขวายหาเรื่องที่เกี่ยวข้องมาเขียน อ่านเรื่อง google adsense เค้าก็แนะนำให้ทำบล็อกกับ blogger เราก็มาทำบล็อก ติดโฆษณาเรียบร้อย แต่ไม่เห็นมีคนมาคลิกเลย 55 ช่างมัน ไม่เป็นไร

มาเริ่มโปรเจคใหม่กันดีกว่า คิดไปคิดมาก็อยากมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เห็นเค้าว่ามันเวิร์คกว่าเขียนบล็อก และก็ยากกว่าด้วย นี่เป็นสิ่งที่ท้าท้าย เราเคยทำเวบมาบ้างนิดหน่อย ย้ำ นิดเดียว ช่วงก่อนไปเปิดโฮสต์ฟรีของ 000webhost.com ได้เนื้อที่ 1500MB เยอะใช้ได้ และศึกษา joomla ลองอัพเว็บดู รู้สึกว่ามันยาก อ่อ วันนี้ไม่ได้มีเทคนิคอะไรมานำเสนอ แต่อยากบอกว่าอยากรู้อะไรต้องศึกษาและต้องพยายามเอง ก่อนเดินทางลัด เราขอลองเดินทางตรงดูซักตั้ง จากเวบ hosting ของ 000webhost เราก็ได้โดเมนเนมเป็น http://keepgoing.comoj.com .........อื่มนะ... ไม่รู้คิดยังไงอยากมี .com เป็นของตัวเอง ก็เลยไปเซิชที่รับจดทะเบียนโดเมนเนม มีตั้งหลายเวบ เราเซิชของนอกนะ ไม่รู้ดิ คิดว่าน่าจะถูกกว่าของไทย มีเวบ godaddy.com cheapname.com แล้วก็มีเวบที่เราคิดว่าโอเคสำหรับเราคือเวบ hostingdude.com แหม๊ ชื่อมันเท่จริง ๆ เราเปิดเวบโฮสติ้งดู๊ดเทียบกับอีกหลาย ๆ เวบ เราว่าหน้าตามันเหมือนกันเลยอะ เช่นเวบ luckyregister.com ดูราคาโปรโมชันอะไรก็เหมือนกันไปหมดเลย ราคามีตั้งแต่หลายเหรียญ ต่ำสุดที่เราเจอและที่เราสมัครคือ 7.49$ ที่เวบ hostingdude.com แต่พอรวมราคาไม่รู้มันบวกอะไรเพิ่มกลายเป็น 7.6$กว่า ๆ และเวบนี้ดีที่ใช้ paypal จ่ายได้ด้วย เวบส่วนใหญ่ก็ใช้ paypal จ่ายได้เหมือนกัน

ชื่อโดเมนเนมดี ๆ เจ๋ง ๆ ก็มีคนเอาไปหมดแล้ว เราจะทำเรื่องไบโออินฟอเมติกส์ ชื่อ bioinformatics.com bioinfo.com bioin4matics.com อะไรงี้ก็มีคนเอาแล้ว เราเลยเอา bioin4.com ก็ได้ ตอนนี้เอามันมาเชื่อมกัน keepgoing.comoj.com ที่เคยมี มั่ว ๆ ไป เอาล่ะ จะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตาม

Tuesday, July 28, 2009

หุ้น คือ อะไร

หุ้น คืออะไร
หุ้นในที่นี้ก็เหมือนหุ้นส่วนเวลาเราจะหุ้นกับเพื่อน ๆ หรือคนรู้จักไปเปิดร้านอะไรซักอย่างนึง เช่นเราบอกว่าเราซื้อหุ้น ปตท. หรือหุ้นดีแทค ก็เหมือนกับเราเอาเงินมาลงขันกับเค้า ให้เค้าเอาเงินไปทำธุรกิจให้มันเติบโต พอได้กำไร เค้าก็แบ่งเงินส่วนหนึ่งมาเป็นเงินปันผลให้เรา เราลงแค่เงินแต่เค้าก็มีทีมผู้บริหารและพนักงานรออยู่แล้ว เค้าก็เอาบริษัทเค้าเข้าตลาดหุ้น(Stock Market)เพื่อรวบรวมเงินจากคนอื่นมาใช้ทำธุรกิจให้มันงอกงามนั่นเอง ตรงกันข้าม ถ้าบริษัทเกิดขาดทุนหรือเจ๊งกะบ๊งขึ้นมา เราก็ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบด้วย เช่น เราอาจจะเสียเงินที่เราลงไปด้วย

การซื้อขายหุ้นไปทำกันที่ไหน
เอาในไทยก่อนนะ ก็ซื้อที่ตลาดน่ะสิ แต่เดินถือเงินไปซื้อเลยไม่ได้นะ ต้องซื้อผ่านโบรคเกอร์ซึ่ง(อะไรยังไงค่อยว่ากันวันหลัง) ตลาดหุ้นก็เป็นแหล่งที่บริษัทต่าง ๆ มารวมกัน แล้วก็เปิดให้คนทั่วไปมาร่วมลงทุนด้วย เช่นอาจเคยได้ยิน หุ้นของบริษัท ปตท. หุ้นธนาคารกสิกร หุ้นบริษัทซีพี หุ้นบริษัทนั่นนี่นู่นมากมาย หุ้นจะขายเป็นหน่วย เช่น หน่วยละ 5 บาท เราซื้อ 100 หน่วยก็เป็นเงิน 500 บาท ราคาหุ้นต่ำสุด ๆ อยู่ที่หน่วยละ 0.01 บาท ซึ่งก็คือ 1 สตางค์นั่นเอง

ตลาดหุ้น หรือ ตลาดหลักทรัพย์ ในไทยมี 2 ตลาด คือ
1. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (The Stock Exchange of Thailand) เวบไซต์ http://www.set.or.th/th/index.html
ตลาดนี้เริ่มเปิดให้ซื้อขายครั้งแรกเมื่อ 30 เมษา 2518 โอ้ว นับถึงวันนี้ก็ 34 ปีกว่า ๆ แล้วสินะ ของที่ขายในตลาดนี้ หมายถึงบริษัทที่อยู่ในตลาดนี้จะเป็นบริษัทใหญ่ ๆ ทุนจดทะเบียนเยอะ ๆ เกิน 100 ล้าน ตอนนี้มีบริษัทในตลาดทั้งหมดเกือบ 500 บริษัท(ล่าสุดที่ดูคือ 497 และก็คงเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต)
2. mai(Market for Alternative Investment)
อันนี้เปิดซื้อขายครั้งแรกเมื่อ 17 กันยา 2544 เป็นตลาดหุ้นสำหรับธุรกิจที่ขนาดเล็กลงมา ทุนจดทะเบียนไม่เกิน 100 ล้าน ตอนนี้มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดนี้ 54 บริษัท

เอาแค่นี้ก่อน ต่อไปมีเกมหุ้นมาแนะนำ

อันแรก ของห้องสินธรในเวบพันทิป ใครเป็นสมาชิกของเวบพันทิปอยู่แล้วก็ใช้แอคเคาท์นั้นลองเล่นได้เลย มีคู่มือให้อ่านดูด้วย เริ่มเล่นจะมีเงินปลอม ๆ ให้เล่น 1,000,000 บาท ก็เอาไปลองซื้อ ๆ ขาย ๆ กันดู ว่าจะทำให้เงินล้านบาทงอกเงยได้แค่ไหน ราคาหุ้นก็จะอ้างอิงจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เวบไซต์ http://stockgame.pantip.com/

เกมหุ้น คลิกเลย


อันที่สอง เกมลงทุนหุ้นออนไลน์ของเวบคลิกทูวิน มีเงินเริ่มต้นให้ 1,000,000 บาทเหมือนกัน ราคาหุ้นขึ้นลงเหมือนจริงในตลาดหลักทรัพย์ เวลาเปิดปิดตลาดก็เหมือนจริงมั๊กมักขอบอก นี่เค้าเปิดให้แข่งกันเล่นหุ้นไปรอบที่สามแล้ว สมัครตอนนี้ยังทัน ไปซ้อมมือกันได้ เล่นได้ดีมีรางวัลด้วยนะ จะบอกให้

เกมหุ้น คลิกเลย

อันสุดท้าย เป็นหุ้น Forex ของต่างประเทศ จะว่าเป็นเกมก็ไม่เชิง หุ้นนี้ซื้อขายค่าเงินกัน คือ อัตตราแลกเปลี่ยนเงินน่ะ เราก็ไม่ค่อยเข้าใจ เค้าให้เงินจริงมา 5$ แล้วก็เงินปลอมอีก 10,000$ แต่อันนี้ค่อนข้างยุ่งยาก สามารถไปเซิชดูในพี่กูเกิ้ลได้ มีคนไทยเขียนบทความเกี่ยวกับหุ้นฟอเร็กซ์เยอะมาก มี Dow Jones ให้ซื้อด้วยนะ ใครอยากสัมผัสดาวน์โจนส์ ก็ไปลองเล่นกันดู










ขอให้สนุกสนานกับการออมเงินนะ ระวังเล่นหุ้นเยอะ ๆ จะนอนหลับไม่สนิทนะ แบบว่าผวา กลัวหุ้นตก อิอิ

Welcome to Chiang Mai University

วันนี้มาอ่านเจอ เขียนได้อย่างเท่ ภาษาสละสลวยมากกกกกกกก
ความจริงวันนี้คือ มช. รถเยอะมาก และไม่มีที่จอดรถเพียงพอ ให้ตายเหอะ โรบิ้น(ทำไมต้องพูดคำนี้ออกมาด้วยฟะ) และ มช.สร้างถนนบ่อยมาก เพราะสร้างแล้วก็พังแล้วก็สร้างแล้วก็พัง - -" และตรงลานจอดรถคณะสังคมก็สร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ(ขอโทษนะ ทำอะไรก็เฉลิมพระเกียรติไปหมด รู้สึกเอียน) พอมาสร้างอาคาร ที่จอดรถก็หายไปอีกที่ ทำให้ตอนนี้หน้าสหกรณ์ตอนกลางวันรถจอดเต๊ม! เราคิดว่าสร้างอาคารจอดรถซะยังจะดีกว่า อันนี้สร้างตึกไม่สร้างที่จอดรถ ไม่มองอนาคตบ้างเลย พอละดีกว่า เดี๋ยวจะยาว เอาที่คุณท่าน ออธอกอบอดอ เขียนมาอ่านกันซักหน่อย
จากหน้าเวบมช.ที่เป็นภาษาอังกฤษหน้าแรกเลยพี่น้อง http://www.cmu.ac.th/cmueng2008/index.php

----------------------------------------------------


อ่างแก้ว


Welcome to Chiang Mai University


Outside of Bangkok, CMU, known locally as Mor Chor, is Thailand's oldest, largest, and most renowned institute of higher education. As President, it gives me great pleasure to introduce you to our university. Step onto our campus and you will find yourself entering a world where education is a living force, an irresistible energy that stimulates the creative and innovative spirit that resides within all of those who take up the challenge of the life-long pursuit of knowledge. Today, we live in a world driven by a hitherto unprecedented acceleration in the rate of technological advancement and its concomitant demands for increasingly higher standards of academic excellence. Chiang Mai University is acknowledged as the pre-eminent center for study in the North of Thailand. To maintain this position of excellence, we continually strive to improve, to ensure that our range of disciplines, our teaching methodology and our research activities reflect world standards. Our most recent advance in curriculum development has been to adopt an interdisciplinary educational system, designed to offer students the utmost flexibility in creating study programs.
In pursuit of our goal, we welcome both international students and international cooperation in collaborative research ventures. Internationalisation is the cornerstone of our continuing process of expansion, development and improvement of academic standards. Through constructive interaction with our international partners; in teaching, research and through contact with professional associations, we seek innovative solutions to local, national and global problems. We consider these to be mutually beneficial partnerships – and we are delighted that so many of our visitors report having gained unique insights from their first-hand experience of our Thai cultural approach.
Our current, ongoing drive to enhance both the quantity and quality of the research projects conducted at CMU means that we are continually seeking new international partners for collaborative research. Such mutually beneficial collaboration will combine our national strengths with those of partner universities and institutes world-wide.
We warmly welcome international students to Chiang Mai and greatly value the broad perspectives and varieties of experience that they bring with them to share with our Thai students. The continuing increase in the number of our international students reassures us that we are successfully working towards our goal of providing world-class standards in education. Visiting students, studying, in English, in one of the many international short courses and postgraduate programmes that we offer, discover in Chiang Mai a city where modern cosmopolitan life is an integral part of a tapestry woven on a cloth of timeless tranquility.
The ambience and learning facilities at Chiang Mai University are unmatched in Northern Thailand. I am confident that, no matter what your academic interests, if you are determined to make the best of your abilities you will feel at home amongst the staff and students at CMU: people who share a common goal to make a full contribution in tomorrow's exciting, and challenging world.
Welcome to CMU.


Pongsak Angkasith, Ed.D.
President

Monday, July 27, 2009

ทำโยเกิร์ต (Making Yoghurt)


(ยืมรูปจากพี่กูเกิ้ล เหมือนเดิมนะ)

ก่อนอื่นเลย โยเกิร์ตไม่ใช่นมบูด การที่่จะให้นิยามของคำว่า อาหารที่บูดคือ อาหารเสียที่เราไม่ต้องการ อย่างงี้จะหมายความว่าอย่างไร

เราเอานมมาทำโยเกิร์ตแล้วได้โยเกิร์ตตามที่เราอยากจะได้ คือบรรลุวัตถุประสงค์การทำโยเกิร์ต

ทำโยเกิร์ต ได้โยเกิร์ต = ไม่ใช่นมบูด

ทำโยเกิร์ต ได้นมอะไรก็ไม่รู้ = นมบูด

ประวัติโยเกิร์ต

จากวิกิพีเดีย นักประวัติศาสตร์มีความเห็นว่า โยเกิร์ตเป็นอาหารที่รวมอยู่ในโภชนาการของชนเผ่าทราเซียน อันเป็นบรรพบุรุษเก่าแก่ที่สุดของชาวบัลแกเรีย ชาวทราเซียนเก่งในการเลี้ยงแกะ คำว่า yog ในภาษาทราเซียน แปลว่า หนาหรือข้น ส่วน urt แปลว่า น้ำนม คำ yoghurt น่าจะได้มาจากการสมาสของคำทั้งสองข้างต้น ในยุคโบราณราวศตวรรษที่ 4 ถึง 6 ก่อนคริสตกาล ชาวทราเซียนมีวิธีการเก็บรักษาน้ำนมไว้ในถุง ที่ทำจากหนังแกะ เวลาไปไหนต่อไหนก็เอาถุงนี้คาดเอวไว้ ความอบอุ่นจากร่างกายร่วมกับจุลชีพที่มีอยู่ในหนังแกะ ช่วยให้เกิดปฏิกิริยาการหมักขึ้น น้ำนมในถุงก็กลายสภาพเป็นโยเกิร์ตไป

นักวิทยาศาสตร์บางคนสันนิษฐานว่า สิ่งที่มีมาก่อนโยเกิร์ตน่าจะเป็นน้ำนมหมักที่ใช้ดื่ม เรียกว่า คูมิส (Kumis) น้ำนมชนิดนี้ทำมาจากน้ำนมม้า โดยชนเผ่าที่มาอยู่ก่อนหน้าชาวบัลแกเรีย เช่น ชนเผ่าที่เร่ร่อนที่อพยพย้ายถิ่นฐานจากทวีปเอเชียมายังคาบสมุทรมัลข่าน ในปี ค.ศ.681

ในยุโรปตะวันตก โยเกิร์ตปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในศตวรรษที่ 16 ในราชสำนักของกษัตริย์ฟรานซิสที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ครั้งนั้นกษัตริย์พระองค์นี้ประชวร มีพระอาการปั่นป่วนในท้อง แพทย์ชาวตุรกีผู้หนึ่งจึงทำการรักษาโดยให้เสวยโยเกิร์ตที่นำมาจากบัลแกเรีย เรื่องนี้ศาสตราจารย์คริสโต โชมาคอฟ รายงานไว้ในหนังสือ Bulgarian Yoghurt-Health and Longerity

ส่วนผสม

1. น้ำนม อะไรก็ได้ ยกเว้นนมเม็ด นมผง นมข้นหวาน

2. เชื้อจุลินทรีย์ Lactobacillus bulgaricus , Streptococcus themophilus โอ้ว ยุ่งยาก ไปซื้อโยเกิร์ตมาดีกว่า เอายี่ห้อไหนก็ได้ เอามาเลย เพราะว่าในโยเกิร์ตก็ยังมีจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ให้เราใช้ได้ 55

3. น้ำตาล(อันนี้แล้วแต่ชอบจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ ถ้าไม่อยากเติมน้ำตาลก็ซื้อนมหวานมาเลยดีกว่า)

4. ผลไม้หรือแยมต่าง ๆ หรือน้ำผึ้ง อะไรก็ได้ที่คุณจะสรรหามากินกับโยเกิร์ตอะนะ แนะนำ Bestfood รุ่น Squeezy เวิร์คมั่ก

วิธีทำแบบยากและดูดีมีหลักการ

1. อุ่นนมให้ร้อนประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส เคยอ่านมามันจะช่วยฆ่าเชื้อได้บางส่วนและช่วยให้โปรตีนในน้ำนมเข้ากับน้ำได้ ดี จะช่วยให้โยเกิร์ตที่เราทำไม่แยกตัวเป็นชั้นเวลาทำ ใช้เวลาประมาณแป๊บเดียว สองสามนาที

2. ใส่เชื้อจุลินทรีย์ลงไป ใส่มากได้โยเกิร์ตเร็วกว่า ใส่น้อยได้โยเกิร์ตช้ากว่า อ่อ ใส่ตอนที่อุณหภูมินมประมาณ 40 องศาเซลเซียส กะเอาก็ได้ เอาว่าเราจับนมแล้วมันไม่ร้อนเกินไป จุลินทรีย์มันก็น่าจะอยู่ได้ ที่อ่าน ๆ มาเค้าบอกว่า ให้ใส่โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะพูน ๆ ต่อนม 500 ml ส่วนเราก็ใส่มันทั้งถ้วยที่ซื้อมานะแหละ ไม่ต้องคิดมาก 555 แล้วก็คน ๆ ให้นมกับโยเกิร์ตมันเข้ากัน

3. บ่มให้เชื้อจุลินทร์เจริญ ถ้าใครมีตู้ควบคุมอุณหภูมิ แบบว่าทำงานในห้องแลบไรงี้ก็ใส่ไปเลย 37 องศาเซลเซียส ซัก 4 ชั่วโมงก็ได้ละ เอาไปใส่ตู้เย็นโลด กินแบบเย็น ๆ แต่คาดว่าชาวบ้านทั่วไปคงไม่มีตู้(incubator) ก็ให้เอานมที่ได้จากข้อ 2 เมื่อกี๊ใส่ภาชนะ ปิดฝา ตั้งทิ้งไว้ที่ที่คิดว่าอุ่นที่สุดของบ้าน หรือถ้าไม่มีก็ตั้งทิ้งไว้ที่โต๊ะซักโต๊ะ ใช้เวลาประมาณคืนนึง 8-12 ชั่วโมง ก็กะ ๆ เอา ทิ้งไว้นานก็เปรี๊ยวมาก ถ้าเช็คดูแล้วโอเค ก็เอาโยเกิร์ตใส่ตู้เย็นเลย เก็บไว้ได้อีกหลายวัน เวลาจะกินก็เอามากินกับผลไม้ เช่น มะม่วงนี่สุดยอดไปเลยยยยย

วิธีทำแบบง่ายและได้ผล

1. ซื้อนมรสหวานมา 1 ขวด จะเอาขนาด 500 ml หรือ 1000 ml ก็ได้

2. ซื้อโยเกิร์ตรสธรรมชาติมา 1 ถ้วย

3. ดูดนมจากข้อ 1 ไปซักหน่อย แล้วเอาโยเกิร์ตจากข้อ 2 ใส่ไปซักนิด ใส่หมดก็ได้ มันก็จะกลายเป็นโยเกิร์ตเร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะว่ามีปริมาณเชื้อตั้งต้นมาก

4. ปิดฝาขวดนมแล้วเขย่า

5. เอาไปวางไว้หลังพัดลม CPU มันจะอุ่น ๆ ดี หรือเอาไว้ในกระติกน้ำแข็งแล้วเอาน้ำร้อนใส่ขวดไว้แล้วเอาขวดที่มีโยเกิร์ตใส้ไว้ด้วย เป้าหมายคือให้ภาชนะที่ใส่โยเกิร์ตอุ่น แบคทีเรียมันจะเจริญได้ ใช้เวลาซัก 6-8 ชั่วโมงก็จะได้ก็ลองเปิดขวดเช็คดูว่าข้นหรือยัง หรือจะเอาไปบ่มไว้ในรถที่จอดตากแดดไว้ก็ได้ เวิร์คมากเหมือนกัน 555 ระวังร้อนเกิน โยเกิร์ตจะเป็นแบบเหนียว ๆ ไม่น่ากิน มันจะยืด ๆ น่ะ

6. ได้ที่แล้ว พอใจแล้ว กล้าทำก็ต้องกล้ากิน อย่าลืมกินให้คนอื่นดูด้วยนะ 555

----------------------------------------------

สำหรับคนที่เครซี่และจริงจังกับการกินโยเกิร์ต วันนี้เรามีของมานำเสนอ(ข้อมูลและภาพจาก google เช่นเดิม) แถ่น แทน แท๊น...ช้อนโยเกิร์ต ออกแบบโดยคุณ Nojae Park



วิชา Machine Learning

พูดถึง Machine Learning ก็คือ เราสร้าง machine แล้วให้มัน learning อะไรซักอย่าง แล้วต่อไปก็ให้มันคิดเอง ตัวอย่าง เช่น สมมุติว่าสร้างโปรแกรมวิเคราะห์หุ้นว่ามันจะขึ้นจะลงอย่างไร เราก็สร้างโมเดล (โมเดลก็คือสมการ ที่มีค่าพารามิเตอร์ เช่นสมการ y=ax+b มีค่าพารามิเตอร์คือ a กับ b) แล้วก็ให้โมเดลมันเรียนรู้ โดยการสอนมัน เช่น ถ้ากราฟมาแบบนี้และเกิดสถานการณ์แบบนี้ หุ้นจะขึ้น หรือ ถ้าเกิดสถานการณ์อีกแบบ หุ้นจะลง ให้มันเรียนรู้หลาย ๆ สถานการณ์ เรียน ๆๆ เสร็จ ก็จะได้โมเดล ที่เราจะนำเอาไปใช้งาน
สมมุติว่าได้โมเดลวิเคราะห์หุ้นแล้ว เราเอาไปใช้กับสถานการณ์จริง ซึ่งไม่เคยให้มันเรียนมาก่อน แต่มันคิดเองได้ ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง แล้วมันก็ทายผลออกมา นี่แหละ machine learning
การให้มันเรียนรู้ ก็มีวิธีหลายอย่าง เช่น Hidden Markov Models, Conditional Random Fields, Support Vector Machine, Artificial Neuron Network และอื่น ๆ อีกมากมายก่ายกอง
สามารถหาความรู้ได้ในยูทูบ ยกตัวอย่างเช่น อันนี้เป็นของมหาวิทยาลัย Standford ที่อเมริกา เป็นมหาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง เราคิดว่ามันดังนะ 55 อันนี้ยกตัวอย่างมาเป็นแค่ตอนเค้าอินโทร จะเริ่มเรียน ที่จริงมันมีจนจบคอร์ส machine learning เลยนะ ไว้จะมาพูดให้ฟังอีกเรื่อย ๆ

แนะนำหลักสูตร Bioinformatics มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

มาแนะนำให้เรียน สำหรับคนที่ชอบอะไรใหม่ ๆ ชอบก้าวนำไปพร้อม ๆ กับโลก โอ่โห เว่อร์ไป วันนี้จะมาแนะนำหลักสูตร Bioinformatics หรือภาษาไทยว่า ชีวสารสนเทศศาสตร์ ของมช. มช.คือมหาวิทยาลัยเชียงใหม่นะ อยู่ จ.เชียงใหม่ - -" เปิดหลักสูตรเฉพาะป.โท เรียกแบบเท่ ๆ ก็หลักสูตรมหาบัณฑิต เวบไซต์ http://bioinfo.science.cmu.ac.th/ ไปเชี่ยมยม เอ๊ย เยี่ยมชมกันได้ เวบไม่ค่อยได้อัพเดท ใครเข้ามาเรียนก็มาอัพเดทด้วยละกัน หึหึ


ดูหลักสูตรกันคร่าว ๆ ก่อน ถ้ามาเรียนจริง ๆ อาจจะต้องไปนั่งเรียนตัวอื่นเพิ่มด้วย เรียนกันให้ตายไปข้างนึงเลยทีเดียวเชียว
(ยืมภาพปลากรอบจากกูเกิ้ลนะ)

----------------------------------------------------


หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาชีวสารสนเทศศาสตร์ (หลักสูตร ใหม่ พ.ศ. 2549)
ชื่อ
: หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาชีวสารสนเทศศาสตร์
ชื่อปริญญา
: วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (ชีวสารสนเทศศาสตร์)

: วท.ม. (ชีวสารสนเทศศาสตร์)
แผน ก แบบ ก.1
แผน ก แบบ ก.2
โครงสร้างหลักสูตร
โครงสร้างหลักสูตร
แผนการศึกษาหลักสูตร
แผนการศึกษาหลักสูตร
คำอธิบายลักษณะกระบวนวิชา
กระบวนวิชาที่เปิดใหม่ สาขา วิชาชีวสารสนเทศศาสตร์ จำนวน 11 กระบวนวิชา
1. ว.ชส. (223)711 การประมวลชีวสารสนเทศศาสตร์ Bioinformatics Computing
2. ว.ชส. (223) 721 สถิติสำหรับชีวสารสนเทศ ศาสตร์ Statistical Method for Bioinformatics
3. ว.ชส. (223) 722 แบบจำลองทางสถิติสำหรับชีวสารส นเทศศาสตร์ Statistical Models for Bioinformatics
4. ว.ชส. (223) 731 ชีววิทยาระดับโมเลกุลขั้นพื้นฐาน Fundamental Molecular Biology
5. ว.ชส. (223)741 การวิเคราะห์สายลำดับดีเอ็นเอและโปรตีน DNA and Protein Sequence Analysis
6. ว. ชส. (223)788 หัวข้อเลือกสรรทางชีวสารสนเทศศาสตร์ 1 Selected Topics in Bioinformatics I
7. ว.ชส. (223)789 หัวข้อเลือกสรรทางชีวสารสนเทศศาสตร์ 2 Selected Topics in Bioinformatics II
8. ว.ชส. (223)791 สัมมนาทางชีวสารสนเทศศาสตร์ 1 Seminar in Bioinformatics I
9. ว.ชส. (223)792 สัมมนาทางชีวสารสนเทศศาสตร์ 2 Seminar in Bioinformatics II
10. ว.ชส. (223)797 วิทยานิพนธ์ปริญญาโท M.S. Thesis
11. ว.ชส. (223)799 วิทยานิพนธ์ปริญญาโท M.S. Thesis


-------------------------------------------------

ต่อไปจะมาพูดเกี่ยวกับวิชาเรียนต่าง ๆ นะ

ออกกำลังกายอีกครั้ง

เมื่อวานวันอาทิตย์ 4 โมงเย็นกว่า นอนอ่านหนังสือ แล้วหลับไป อยู่ ๆ เหมือนจะรู้สึกว่าหยุดหายใจ
รู้สึกว่าตัวเองเริ่มอ้วน เห็นทีต้องออกกำลังกายซะแล้ว ตัดสินใจปั่นจักรยานไปหา นอนอ
ชวน นอนอ ปั่นจกย. ไปเล่นแบดกันที่ศาลาธรรม ที่ศาลาธรรม มช. หมายความว่า แถว ๆ ศาลาธรรม ไม่ใช่ในศาลาธรรมเลยนะ มักจะมีคนมาเล่นแบดมินตัน พาลูกมาปั่นจักรยาน หรือบางคนก็มาวิ่ง เอาหมามาวิ่งด้วยก็มี และบรรยากาศ ก็ดี แต่ว่าเป็นแบบ outdoor เล่นแบดก็จะมีลมพัด เป็นความท้าทายในการเล่น 55 คนที่อยู่เหนือลมก็ตีจึ๊กเดียวก็ไปไกลแล้ว อะไรงี้
ยังเจ็บข้อเท้าอยู่เพราะว่า เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้วก็เล่นแบดอย่างงี้แล้วก็ ต้าว(ต้าว=ล้ม) ข้อเท้าแพลง
วันนี้ก็เลยไม่วิ่ง หวดอย่างเดียว

ได้ออกกำลังกายก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย จากที่ทั้งวันนั่งเล่นแต่คอม ปวดหลังไปหมดเลย ไม่ได้ขยับตัว
ออกไปข้างนอกก็ได้เคลื่อนไหวร่างกาย หายปวดเมื่อย

สุขภาพดีไม่มีขาย นะแจ๊ะ ๆ

Saturday, July 25, 2009

แนะนำ Bioinfomatics

Bioinfomatics คืออะไร มันมีภาษาไทยว่า ชีวสารสนเทศศาสตร์
เอาง่าย ๆ มันก็คือวิชา วิชาหนึ่งที่ว่าด้วยการใช้คอมพิวเตอร์มาจัดการข้อมูลทางชีววิทยาที่มีอยู่อย่างมากมาย ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นก็คือ ลำดับของดีเอ็นเอ

เอาคำอธิบายในวิกิมาฝาก()
ชีวสารสนเทศศาสตร์ (อังกฤษ: Bioinformatics) หรือ ชีววิทยาเชิงคำนวณ (Computational Biology) เป็นสาขาที่ใช้ความรู้จากคณิตศาสตร์ประยุกต์, สถิติศาสตร์, สารสนเทศศาสตร์, และวิทยาการคอมพิวเตอร์ เพื่อแก้ปัญหาทางชีววิทยา.

สาขาวิชานี้ที่เปิดสอนในไทยเหมือนจะมีอยู่ 2 ที่ คือที่ม.เกษตร กับ มช.
ม.เกษตร จะมีสอนในหลักสูตร ป.โท และ ป.เอก เรียนหนักมากนะขอบอก บางทีเรียนกันทั้งวัน ถึงสามสี่ทุ่ม
ส่วนมช. จะมีถึงแค่ ป.โท เรียนหนักเหมือนกัน เน้นเรียนไปทางโมเดลลิ่ง ลงลึกถึงสมการกันเลยทีเดียวเชียว
คนที่จะมาเรียนก็สามารถมีพื้นฐานมาได้จากหลาย ๆ สาขา เช่น คอมพิวเตอร์ ชีววิทยา คณิตศาสตร์ สถิติ เป็นต้น แล้วค่อยมาเรียนรู้เพิ่มเติมเอา แต่ก็ต้องศึกษาเองมาก ๆ เลย เพราะว่าในประเทศไทย ยังขาดแคลนคนที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้จริง ๆ
คนที่เป็นนักคอมพิวเตอร์ ก็ไม่อยากเรียนชีวะ คนที่เป็นนักชีวะก็ไม่อยากเรียนคอมพิวเตอร์ เรียนหมายถึง เรียนรู้อย่างลึกซึ้งนะ

สิ่งที่จะต้องเรียน เอาเท่าที่นึกออก
Molecular Biology
Sequence Analysis
Perl Programing
Database
R Programing
โปรแกรมต่าง ๆ SPSS, Matlab, Maple
Statistical Modeling
ฯลฯ
ดูเหมือนน้อยจังเลยง่ะ นึกไม่ออกละ - -"

ใครมีสมองและมีตังค์ก็มาเรียนนะ ที่มช.ค่าเทอมเหมาจ่ายเทอมละ 22,500 บาท(ตลอดหลักสูตรก็ 90,000) ลงเรียนได้ไม่อั้น นะจ๊ะ
ถ้ามีตังค์เยอะอีกหน่อยไปเรียนที่ต่างประเทศเลย น่าจะดีกว่า

ไดอารีออนไลน์

อยากเขียนบล็อกมั่งง่ะ
เมื่อก่อนเขียนไดอารีฮับ(www.diaryhub.com) แต่!! แต่ แต่!! ตอนนี้เวบเค้าเจ๊งไปแล้วอะ ไม่มีแล้ว แต่มีเวบ diaryis.com มาแทน รึป่าวไม่แน่ใจ แต่ยังไง diaryis ก็ไม่เหมือน diaryhub
พยายามเป็นกำลังใจให้ไดฮับอยู่หลายช่วง บางช่วงกลับมา บางช่วงเหมือนจะดีขึ้น แต่มันก็ไม่ดี ข้อมูลต่าง ๆ ที่เคยเขียนไว้ ก็หายไปหมดเลย รู้สึกเสียใจเหมือนกัน ต่อมาก็ไม่เคยเขียนอะไรไว้ในเน็ตอีกเลย ช่วงนู้น ไดฮับมีฟังก์ชั่น [private][/private] ด้วยนะ รู้สึกชอบมาก เพราะว่าคนอื่นจะไม่เห็นข้อความที่อยู่ในแท็กไพรเวท
ช่วงนั้นที่เขียนไดประมาณ ม.6 ต่อด้วย ปี 1 ได้ไปเรียนที่ มช. รู้สึกดีที่ได้รู้ว่า อ๊าว เพื่อนใหม่เรา เค้าก็เขียนไดเหมือนเราด้วย ช่างเท่จริง ๆ 555
วันนี้วันเสาร์ ต้องกินเกาเหลานะ